ข้อความอธิบายภาพ
เทควันโด
เทควันโด (เกาหลี: 태권도; ฮันจา: 跆拳道; อาร์อาร์: Taegwondo; เอ็มอาร์: T'aekwŏndo, แท-กว็อน-โด) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวโดยไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี คำว่า "เท" (태; แท) แปลว่า เท้าหรือการโจมตีด้วยเท้า; "ควัน" (권; ควอน) แปลว่า มือหรือการโจมตีด้วยมือ; "โด" (도; โด) แปลว่า วิถีหรือสติปัญญา ดังนั้นเทควันโดโดยทั่วไป หมายถึง วิถีแห่งการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัว หรือการใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัวอย่างมีสติ จากประวัติศาสตร์ซึ่งเผยแพร่ในช่วงแรกนั้น หลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง เกาหลีที่ถูกยึดครองโดยญี่ปุ่นในปี 1910-1945 เทควันโดได้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้คาราเต้ของญี่ปุ่นเป็นพื้นฐาน แล้วผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีประเภทอื่นเช่น taekyon subak ทำให้เทควันโดเป็นการต่อสู้ที่แตกต่างสวยงาม โดยใช้เท้าเป็นหลักซึ่งแตกต่างจากคาราเต้ ทั้งรูปแบบการต่อสู้ จุดเด่น การยืน ฟุตเวิร์ก อย่างชัดเจน เทควันโดเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ได้เข้าร่วมเป็นกีฬาโอลิมปิกเพราะการสนันสนุนของรัฐบาลเกาหลีใต้ และความแตกต่างทางด้านการต่อสู้อย่างชัดเจน

หลักสูตรการเรียน
เรียนท่าเตะ และท่าต่อสู้ป้องกันตัวประกอบด้วยท่าพื้นฐาน - การใช้มือจู่โจม ในท่าต่างๆ มือ เท้า เข่า ศอก จะเห็นได้จากท่าสอดแทรกที่ใช้ใน สเตป ตอนสอบสาย - ท่าเตะบนพื้น ประกอบด้วย ฟร้อนคิก(เตะตรง) ราวด์คิก(เตะสะบัด) ไซด์คิก(เตะถีบข้าง) ฮุคคิก(เตะเกี่ยว) สวิงคิกหรือสปิ้นแบค(หันหลังเตะสะบัด,จระเข้ฟาดหางในมวยไทย) ช็อปคิกซ์(เตะตบลง) พุชคิก(การถีบ) ดับเบิลคิก(การเตะในตระกูลเท้าคู่ทั้งหลาย เช่น ดับเบิ้ลราวด์ ) - ท่าเตะแอร์คิก (กลางอากาศ) ประกอบด้วย ท่าเตะกระโดดทั้งหลาย จั้มฟร้อน จั้มไฮด์ ฟลายอิ้งไซด์ ฟลายอิ้งแบค เทินนิ่งแบ้ค ทูเวย์ 540 สวิงคิก 720 คิกส์ ท่าประยุกต์ และอื่นๆ ที่เท้าลอยพ้นพื้นทั้งสองข้าง เรียนพุมเซ หรือที่คนไทยเรียนท่ารำ เพื่อจำลองการป้องกันตัวและสอนให้รู้จักการเคลื่อนไหวพื้นฐานในการต่อสู้ ซึ่งปัจจุบันมีการบรรจุในการแข่งขันเพื่ออนุรักษณ์ ให้พุมเซ มิให้สูญหายไปตามยุคสมัย สเตปรุก รับ นำท่าป้องกันตัวต่างๆ มาจำลองการเคลื่อนที่กับคู่ที่จัดไว้เพื่อให้คุ้นเคยเมื่อการเหตุการณ์จริง จะได้คุมสติ คุมสมาธิเป็น การต่อสู้ตามกติกา (ฟรีสแปริ่ง) การต่อสู้ ที่ ระบุด้วยกติการให้ปลอดภัยเพื่อให้ สามารถบรรจุเข้าเป็นกีฬาสากล โอลิมปิค ทำให้จำเป็นต้องตัดอาวุธ ต่างๆ การต่อสู้ตามกติกาเป็นการฝึกจิตใจ ให้ควบคุมตนเองได้เมื่อต่อสู้ การป้องกันตัวจริง( โฮชิลซู) การประยุกต์ท่ามาป้องกันตัว รวมไปถึง การทุ่ม เชือด หัก ล็อก การทำลาย (เคียกพ่า) การฝึกจิตใจด้วยการทำลายวัตถุต่างๆ ด้วยท่าที่ฝึกฝนมา เช่นการฟันอิฐ ฟันไม้ หรืออุปกรณ์ที่เตรียมขึ้นเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่นการแข่งขัน การแสดง เพื่อฝึกด้านการตัดสินใจของนักกีฬา เรื่องต่างๆ วิทยาศาสต์การกีฬา โภชนาการ การใช้อาวุธ การสอดแทรกคุณธรรม แล้วแต่ประสบการณ์ของผู้สอน ซึ่งในแต่ละยิม ชมรม สมาคม อาจจะเลือก สอนไม่ครบทั้ง 6 อย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความถนัดหรือจุดประสงค์เป็นหลัก

กลับไปหน้าแรก โอลิมปิก

กลับไปหน้าที่ 2 กีฬาโอลิมปิก